การฝากไข่ (Egg Freezing หรือ Oocyte Cryopreservation)

❖ การฝากไข่คืออะไร

การฝากไข่ (Egg Freezing หรือ Oocyte Cryopreservation) คือการเก็บไข่จากรังไข่ของผู้หญิง แล้วนำไปแช่แข็งด้วยเทคโนโลยีการแช่แข็งแบบพิเศษ (Vitrification) เพื่อรักษาคุณภาพไข่ให้พร้อมสำหรับการปฏิสนธิในอนาคต โดยไม่เสื่อมตามอายุที่เพิ่มขึ้น

เป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้หญิงที่:

ยังไม่พร้อมมีบุตรด้วยเหตุผลส่วนตัวหรือหน้าที่การงาน
มีปัญหาทางสุขภาพ เช่น โรคมะเร็ง ที่อาจกระทบต่อการผลิตไข่
มีประวัติครอบครัวมีภาวะหมดประจำเดือนก่อนวัย (early menopause)

❖ ใครเหมาะกับการฝากไข่

หญิงอายุ 25–38 ปี ซึ่งยังมีคุณภาพของไข่ดี
ผู้ที่วางแผนมีบุตรช้า หรือยังไม่พร้อมมีครอบครัวในระยะเวลาใกล้
ผู้ที่ต้องเข้ารับการรักษาที่อาจส่งผลกระทบต่อการผลิตไข่ เช่น เคมีบำบัดหรือฉายแสง
ผู้ที่มีภาวะฮอร์โมนผิดปกติ หรือเคยมีการผ่าตัดรังไข่

❖ ขั้นตอนของการฝากไข่

ตรวจร่างกายและประเมินความพร้อม
ตรวจเลือดเพื่อประเมินฮอร์โมน (AMH, FSH, LH) และอัลตราซาวด์รังไข่
กระตุ้นรังไข่ (Ovarian Stimulation)
แพทย์จะให้ยากระตุ้นการเจริญของไข่เป็นเวลา 8–12 วัน พร้อมติดตามการเจริญของฟอลลิเคิลด้วยอัลตราซาวด์
เก็บไข่ (Egg Retrieval)
เมื่อฟอลลิเคิลเจริญเต็มที่ จะทำหัตถการดูดไข่ออกทางช่องคลอดภายใต้การให้ยาระงับความรู้สึก (ใช้เวลา 15–30 นาที)
แช่แข็งไข่ (Freezing)
ไข่ที่ได้จะถูกแช่แข็งด้วยวิธี Vitrification และเก็บรักษาไว้ในอุณหภูมิต่ำมาก (-196°C) จนกว่าจะนำมาใช้ในอนาคต

❖ การดูแลหลังเก็บไข่

งดออกกำลังกายหนักภายใน 2–3 วัน
อาจรู้สึกแน่นท้องหรือปวดเล็กน้อยบริเวณท้องน้อย
หากมีไข่จำนวนมาก อาจมีภาวะ “รังไข่ถูกกระตุ้นมากเกินไป” (OHSS) ต้องติดตามอาการอย่างใกล้ชิด

❖ ไข่ที่แช่แข็งอยู่ได้นานแค่ไหน

ตามมาตรฐานทางวิทยาศาสตร์ ไข่สามารถเก็บรักษาไว้ได้หลายปีโดยไม่เสื่อมคุณภาพ
มีรายงานผู้หญิงตั้งครรภ์สำเร็จจากไข่ที่ถูกแช่แข็งมานานกว่า 10 ปี

❖ ประโยชน์ของการฝากไข่

เก็บไข่ในช่วงอายุที่คุณภาพดีที่สุด เพื่อใช้ในอนาคต
ลดความเสี่ยงจากปัจจัยอายุในเรื่องของโครโมโซมผิดปกติ
เปิดโอกาสให้วางแผนชีวิต ครอบครัว และการงานได้ยืดหยุ่นมากขึ้น

ดูแลทุกขั้นตอนด้วยใจ จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

“ร่วมสานฝันการมีลูก

เติมเต็มครอบครัวไปด้วยกัน”